ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการให้กับทุกๆ คน



สิ่งที่เราให้คนอื่น
แท้จริงแล้วคือของที่เราฝากให้แก่ตนเองในวันข้างหน้า
เช่น วันนี้เราด่าเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาด่า
วันนี้เราโกงเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาโกง
วันนี้เราเนรคุณเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาเนรคุณ
ว.วชิรเมธี

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว"



ชื่อภาพ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
    แก่นธรรม : ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อย่าได้โทษใครทุกๆ คนโชคดีเท่ากัน ... ได้รับผลตอบแทนที่ตนเองกระทำเสมอ ... แน่นอน ... เร็ว ช้าแตกต่างกันไป ... ได้รับแน่... (ผลกรรม)

     ภาพ    เครื่องบิน สื่อแทน ครอบครัว (บ้านแตก), ประเทศ (แตกสามัคคี แบ่งแยก), โลกมนุษย์ (ภาวะโลกร้อน สงครามโลก) นำมาเปรียบเทียบได้ตามสภาวะของแต่ละคน ในที่นี้จะขอสื่อแทน ประเทศ  ที่แตกแยก ร้าวฉานทั่วทั้งลำ และลุกเป็นไฟแล้วในบางส่วน
        ชายใส่สูทดำ สื่อแทนผู้บริหารระดับสูง นักการเมือง ที่อ้างเสมอว่าทำเมื่อประชาชนและประเทศชาติ แท้ที่จริงก็ทำเพื่อพรรค (พวก) ของตนเอง กอบโกย โกงกิน คอร์รัปชั่น กิเลสหนา มีวัตถุมากกว่าชาวบ้านไม่รู้กี่สิบล้านคนในประเทศ ในโลก แล้วไม่รู้จักพอ เมื่อฉุกเฉินประชาชนเดือดร้อน ก็พร้อมจะหนีเอาตัวรอดทันทีในทุกวิถีทาง อย่างที่เห็นได้ในข่าวโทรทัศน์ แม้จะเป็นช่องทางลอดเล็กๆ น้อยๆ เปรียบเปรยได้ว่า
แค่ลูกโป่งลูกเล็กๆ ก็จะเกาะหนี ขอให้ตัวเองและพรรคพวกรอดก็พอ ส่วนผู้โดยสารทั้งลำก็ช่างมัน ผู้โดยสารทั้งลำในช่องหน้าต่าง เปรียบถึงการคอร์รัปชั่นในระบบ
และนอกระบบเกิดขึ้นเต็มบ้านเมือง เกิดมิจฉาชีพทั่ว
ทั้งลำ เมื่อผู้บริหารอ่อนแอ สนใจแต่ผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก
        ผู้ชายที่ทะเลาะกัน กลางลำ สื่อถึงประชาชนทั่วไปที่แตกความสามัคคี
        ผู้หญิงที่กระโดดหนี สื่อถึงคนที่วางเฉย ไม่สนใจ ... ก็ไม่แน่ว่าจะรอดหรืออยู่สบายดีหรือเปล่าท่ามกลางสังคมผู้คนที่แตกแยกวุ่นวาย
        ส่วนนกที่ตกใจ เปรียบเสมือนคนนอกสังคม นอกประเทศที่เฝ้าดูอย่างเวทนา
        พระเณรและชายชุดขาว สื่อแทนผู้ที่มีธรรมะประดับใจ ใช้สติปัญญาช่วยแก้ไขตักเตือนเท่าที่พอจะทำได้

ของฝาก  หันเข้าหาธรรมะกันบ้างเถิด ครอบครัว ประเทศ โลกจะได้สงบสุข อยู่รอด อยู่ดี สบายใจกันทุกคน ... เครื่องจะบินสูงหรือตกต่ำอยู่ที่เรา อย่าโทษใคร
*************************

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บ้านนี้มีสุข ทุกคนมีธรรม




ชื่อภาพ บ้านนี้มีสุข ทุกคนมีธรรม
แก่นธรรม : หน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม, ประเทศ, สังคมโลกคือ ครอบครัว ถ้าแต่ละคนในครอบครัวดี สังคมก็ดี ประเทศก็ดี โลกก็ดี สงบ ร่มเย็น เป็นสันติสุข
ของฝาก : ครอบครัว ประเทศ โลก จะดี จะสงบร่มเย็น มีสันติสุขได้ นั้นก็ไม่ยาก เชื่อว่าทุกคนรู้ดี เพียงแต่ยังไม่ได้ฝึกทำ นั่นคือ มีธรรมะพื้นฐานง่ายๆ 3 อย่างเท่านั้น คือ
    1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการให้สิ่งที่ดีที่สุดต่อกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องให้สิ่งของใดๆ เท่านั้น ให้เพียงรอยยิ้มที่แสนหวาน จริงใจกับคนในครอบครัวเราทันทีที่ตื่นนอน ให้คำว่า โชคดีนะจ๊ะจากใจจริงก่อนไปทำงาน หรือให้อภัยต่อผู้อื่นกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ได้ ... ภาพนี้สื่อแทนการให้ ด้วยภาพคนใส่บาตร
2.       มีความรัก สามัคคีต่อกันกับคนในครอบครัวหรือองค์กร ...
สื่อด้วยภาพเด็กผู้ชาย แมว สุนัขและหนู ซึ่งตามธรรมชาติแล้วก็มีความขัดแย้งกันอยู่บ้าง ก็ถือซะว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ อย่างไรซะ ...รักกันดีกว่าชังกัน
3.       มีความเมตตา (ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข) เท่าที่เราพอจะมีกำลังใจ กำลังกายทำได้ หากคนเรามีธรรมะพื้นฐานประดับตัวประดับใจไว้เสมอ เพียงเท่านี้ ... สังคมจะร่มเย็น จิตใจราจะสงบสุขทุกเวลา ... ขอความเจริญในธรรม จงมีแก่ทุกครอบครัว เทอญ            

วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รูปตัวอย่าง



















เจริญสติ



สุขอื่นใดมีทุกข์ซ้อน เจริญสติสุขแท้ บริสุทธิ์
³³สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบไม่มี หมายความว่า สุขอื่นมี เช่น ความสุขในการดูละครดูหนัง ในการเข้าสังคม social ในการมีคู่ครอง หรือในการมีลาภ ยศ ได้รับความสุข สรรเสริญ เมื่อได้รับความสุขจากสิ่งเหล่านี้ก็สุขจริง ... แต่ว่า สุขเหล่านี้มีทุกข์ซ้อนอยู่ทุกอย่าง ต้องคอยแก้ไขปรับปรุงกันอยู่เสมอ ไม่เหมือนความสุขที่เกิดจากสันติ ความสงบ (เจริญสติ, สมาธิ, ภาวนา) ซึ่งเป็นความสุขที่เยือกเย็นและไม่ซ้อนด้วยความทุกข์ และไม่ต้องแก้ไขปรับปรุงตกแต่งมาก เป็นความสุขที่ทำได้ง่ายๆ (ไม่ต้องลงทุนไม่สิ้นเปลืองใดๆ) เกิดกับกายใจของเรานี่เอง อยู่ในที่เงียบๆ คนเดียวก็ทำได้ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมสังคมก็ทำได้ ถ้ารู้จักแยกใจหาสันติสุข กายนี้ก็สักแต่ว่าอยู่ในที่ระคนด้วยความยุ่งของสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น ไม่ยุ่งมาถึงใจ แม้เวลาเจ็บหนัก มีทุกขเวทนาปวดร้าวไปทั่วกาย แต่เรารู้จักทำใจให้เป็นสันติสุขได้ ความเจ็บนั้นก็ไม่สามารถจะทำให้ใจเดือดร้อนตามไปด้วย เมื่อใจสงบแล้วกลับจะทำให้กายนั้นสงบ หายทุกขเวทนาได้ด้วยและประสบสันติสุข ซึ่งไม่มีสุขอื่นยิ่งกว่าสันติสุขนั้น³³
                               น้อมนำโอวาทธรรมของท่านธัมมะวิตักโกภิกขุ
                                 (พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต)

{{จิตเป็นสมบัติสำคัญมากในตัวเราที่ควรได้รับการเหลียวแลด้วยวิธีเก็บรักษาให้ดี ควรสนใจรับผิดชอบต่อจิต อันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของตน ... วิธีที่ควรกับจิตโดยเฉพาะก็คือภาวนา (เจริญสติ, สมาธิ) ... ฝึกหัดภาวนาในโอกาสอันสมควร{{
                                 น้อมนำโอวาทธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

õõขอให้ท่านทั้งหลายสำรวจดูความสุขว่า ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต ครั้นสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ แค่ที่เราเคยพบมาแล้วนั่นเอง ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำๆ ซากๆ อยู่แค่นั้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า ประเสริฐกว่านั้น ปลอดภัยกว่านั้น ... พระอริยะเจ้าทั้งหลายท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจากความสงบกาย สงบจิต สงบกิเลส (เจริญสติ, สมาธิ,ภาวนา) เป็นความสุขที่ปลอดภัยหาสิ่งใดเปรียบมิได้õõ
                             น้อมนำโอวาทธรรมของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
                                     วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

YY สุขที่แท้จริง ได้แก่จิตที่นิ่ง ไม่ดิ้นรน (ไม่วิตกกังวล ไม่คิดปรุงแต่งต่อเติม) ผู้มา (ฝึกเจริญสติ, สมาธิ, ภาวนา) จับจุดความสุขที่แท้จริงได้อย่างนี้แล้ว แม้ผู้นั้นจะอยู่ในอิริยาบถใด ประกอบกิจการงานใดๆ อยู่ก็ตาม เขาจะมีใจเป็นสุขอยู่ตลอดการทุกเมื่อ YY
                     น้อมนำโอวาทธรรมของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
                              วัดหินหมากเป้ง จ. หนองคาย  

Let it go - Get it out



ชื่อภาพ Let it go – Get it out
ปล่อยมันไป ไล่มันหนี (สบายใจ ใจสบาย)
แก่นธรรม : คนเราเมื่อมีลาภก็เสื่อมลาภ เมื่อมียศก็เสื่อมยศ  เมื่อมีสุขก็ต้องมีทุกข์ มีสรรเสริญก็มีนินทา เป็นของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้ ต้องคิดเสียว่า เขาจะติก็ช่าง ชมก็ช่าง เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ ก่อนที่จะทำอะไร เราคิดแล้วว่า ไม่เดือดร้อนแก่ตัวเราและคนอื่น เราจึงทำ  เขาจะนินทาว่าใส่ร้ายอย่างไรก็ช่างเขา บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้างพยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ จะต้องไปกังวลกลัวใครติเตียนทำไม ไม่มีประโยชน์ เปลืองความคิดเปล่าๆ
        คำว่า ไม่สบายใจ(ใจไม่สบาย) อย่าใช้และอย่าให้มีขึ้นในใจต่อไป  “Let it go – Get it out” ก่อนมันจะเกิด ต้อง Let it go (ปล่อยให้มันผ่านไป)  อย่ารับเอาความไม่สบายใจไว้ ถ้าเผลอไป มันแอบเผลอมาอยู่ในใจ ต้อง Get it out ขับมันออกไปทันที อย่าเลี้ยงเอาความไม่สบายใจไว้ในใจ มันจะเคยตัว ทีหลังจะเป็นคนอ่อนแอ ออดแอด ทำอะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่สบายใจจนเคยตัว เพราะความไม่สบายใจนี้แหละเป็นศัตรู เป็นมาร ทำให้ใจไม่สงบ ประสาทสมองไม่ปกติ เป็นเหตุทำให้ร่างกายผิดปกติ พลอยไม่สงบไม่สบายด้วย ทำให้สมองมึนทึบไม่ปลอดโปร่ง เป็นนิสัยความเคยชินที่ไม่ดี เป็นอุปสรรคกีดกั้นขัดขวางสติปัญญา ไม่ให้ปลอดโปร่งแจ่มใส ต้องฝึกหัดแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่ (เห็นภาพธรรมะแกะสลักทีไร ให้ถามตนเองว่า ... กำลังสบายใจดีอยู่มั๊ย”) ทั้งก่อนที่จะทำอะไรหรือกำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อกระทำเสร็จแล้ว ต้องหัดให้จิตใจแช่มชื่น รื่นเริง เกิดปิติปราโมทย์  เป็นสุขสบายอยู่เสมอ เป็นเหตุให้เกิดกำลังใจ Enjoy living มีชีวิตอยู่ด้วยความเบิกบาน สมองเบิกบาน จะศึกษาเล่าเรียนก็เข้าใจ จำได้ง่าย เหมือนดอกไม้ที่แย้มเบิกบานต้อนรับหยาดน้ำค้างและอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น
                        ..... น้อมนำบทพระธรรมของ ... ท่านธัมมะวิตักโก ภิกขุ ...
                        (พระภิกษุ พระยานรรัตนราชมานิต) บุรุษผู้ซึ่งพระมหากษัตริย์ให้การยกย่อง
        ของฝาก ไม่สบายใจครั้งใด เมื่อได้สติให้รีบ Let it go – get it out ทันที ไม่ต้องไปวิเคราะห์ วิจารณ์ วิตก กังวลใจใดๆ ต่อไปว่า ใครจะได้เปรียบ เสียเปรียบ ใครจะเป็นคนผิด ใครจะเป็นคนถูก ... ถ้าคิดต่อ ความไม่สบายใจมันจะคงอยู่ ... ปล่อยมันไป ไล่มันหนี ดื้อๆ เฉยๆ อย่างนั้นแหละ ช่างมัน หยุดคิด หยุดนึก ... หันมาสังเกต ลมหายใจเข้า ออก ของเราเล่นๆ เพลินๆ มันก็จะลืมความไม่สบายใจได้ ฝึกบ่อยๆ ความไม่สบายใจจะไม่มีช่องทางมาเกาะกุมจิตใจเราได้อีกเลย 

คำอธิบายภาพ
        หัวใจยิ้ม  สื่อแทนใจที่สบาย สบายใจ แทนคนที่ฝึก Let it go – Get it out บ่อยๆ จนชำนาญ มีสติ ระลึกถามตัวเองเสมอว่า กำลังสบายใจดีอยู่มั๊ยและกำลังรู้สึกสบายใจเหมือนได้นั่งพัก- ผ่อน-หย่อนใจ อย่างมีความสุขบนรุ้งกินน้ำ
        พนักงานบริการชาย-หญิง  สื่อแทน คนหญิงชายทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาชีพ ที่จำเป็นจะต้องดูแลรักษา เอาใจใส่ สังเกตดูอารมณ์ ความคิด จิตใจของตนเองให้ดีอยู่เสมอว่า กำลังสบายใจดีอยู่มั๊ย
        หัวใจไม่สบาย (สวมหมวกทหาร)  สื่อแทน คนที่ไม่มีสติ ปล่อยให้ ความไม่สบายใจเข้าเกาะกุมจิตใจมานาน และเผลอตัวเข้าต่อสู้กับความไม่สบายใจจนตัวเองยิ่งแย่
        แมวเกาะบนหมวกทหาร (แมวกลัวน้ำ) สื่อแทน ความกลัว ความวิตกกังวล ก็ต้องปล่อยทิ้งไปพร้อมๆ กับความไม่สบายใจเช่นกัน

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

“กิเลส, ความอยาก”


                           ชื่อภาพ กิเลส, ความอยาก
แก่นธรรม : หากพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้ว จะเห็นว่าสุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ คิดให้เป็น ... มีผลมากกว่าวัตถุสิ่งของเงินทองภายนอก คนมีเงินเป็นหมื่นล้าน มียศตำแหน่งใหญ่โต มีคฤหาสน์หลายหลัง มีรถหลายคัน แต่หาความสุขใจได้อย่างฝืดเคืองเหลือเกิน คนที่มีวัตถุเงินทอง ทรัพย์สมบัติน้อย มีชีวิต พอเพียง และ พอใจก็มีความสุขได้
       หากมอบพรอันวิเศษให้ได้ ต้องการอะไรก็ขอให้ได้อย่างละร้อย ลองนึกดูดีๆ ว่าจะสุขหรือทุกข์
รถร้อยคัน บ้านร้อยหลัง ภรรยา (กิ๊ก) 100 คน วัว 100 ตัว หรือ บริษัท 100 แห่ง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้จะนำความสุขหรือภาระมาให้ ต้องคิด ต้องดูแลเอาใจใส่จนปวดหัว
นอนไม่หลับก็ได้ ... ไม่แน่
       เคยได้ยินคำเปรียบเปรยมาว่า .....................  ต่อให้ฝนตกลงมาเป็นทองคำสูงท่วมเท่าหัวเข่า .............คนเราก็คงไม่รู้จักพอ

“โกรธ”



ชื่อภาพ โกรธ
แก่นธรรม : ความโกรธ ความไม่ชอบใจ ไม่พอใจ หงุดหงิด รำคาญ ร้ายกาจและสำคัญนัก เพราะมันเกิดขึ้นได้ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกด้วยว่าจะเป็นใคร รู้จักกันมาก่อนหรือไม่ ... ไม่สน! ขอให้ได้โกรธ ยับยั้งชั่งใจไม่ได้ซะด้วย รักมากมายแค่ไหนก็โกรธได้ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ เราทุกคนรู้ดีว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า... ไม่อยากจะมีแต่มันก็มี... เพราะเราขาดเครื่องเตือนใจ ขาดสิ่งหักห้ามใจ ติดภาพนี้ไว้ ติดไว้เด่น
เป็นเพื่อนเตือนใจ เห็นแล้วจิตใจสงบลงได้
ภาพ  พระสงฆ์  สื่อแทนหญิงชาย คนทั่วไป ผู้มีธรรมะประดับใจ และฝึกฝนจิตใจด้วยการฝึกสมาธิมาดี จึงมีสติ และปัญญาดี
       แรมบ้า  สื่อแทนหญิงชาย บุคคลทั่วไปที่โกรธง่าย ไม่พอใจง่าย หงุดหงิด รำคาญง่าย ไม่ว่าที่ทำงาน
ที่บ้าน ที่สาธารณะก็ไม่เว้น แค่คิดต่างก็ทะเลาะแตกแยกฆ่าฟันกันถึงตายได้ แค่นิยมชมชอบสีที่แตกต่าง ก็โกรธกันได้แล้ว โดยไม่สนใจเหตุผล แจกโกรธให้ได้ฟรีกับทุกคนที่ตนไม่ชอบ ... แม้ความโกรธจะนำพาซึ่งความเดือดร้อนและความตายมาสู่ตนได้ ... ก็ไม่มีสติที่จะสนใจหรือยั้งคิด อย่างแรมบ้ากำลังจะตกขอบเหวตายเพราะความโกรธ ก็ไม่สนใจ
       สุนัข   สื่อแทนผู้ที่ขาดสติ จิตใจอ่อนไหว ตอบสนองต่อความโกรธและสถานการณ์อย่างฉับพลันทันที ก็อาจจะนำมาซึ่งความลำบากและความตายได้
จะตกถนน และตกขอบเหวตาย ก็ไม่ทันคิดเช่นกัน
       พระองค์แรก    (สวมแว่น) มีอาวุโส สติดี จิตใจสงบไม่หวั่นไหว แค่กลับหลังหันหนีห่างอย่างมีสติ จากพวกชอบโกรธ ก็เท่านั้น ... ไม่ ใส่ ใจ
       พระองค์ที่กลาง  แม้จะตกใจบ้าง แต่ยังมีสติที่
จะหลีกหนีจากสถานการณ์
       พระองค์ซ้ายมือ ฝึกจิตใจ ฝึกสมาธิมาน้อยจึงขาดสติ ขวัญอ่อน ไม่มีข้อธรรมะประดับใจ ... แก้สถานการณ์ไม่เป็นกลับอยู่เผชิญหน้ากับความโกรธ
และอาจจะโกรธตอบได้โดยง่าย ... บ้าตามกัน
          ตัวอักษรโกรธ สื่อถึงความโกรธ มีฟันแหลมคม ร้ายกาจและน่ากลัวยิ่งนัก โกรธจนตัวสั่น โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่ปลายหาง
       ตรงราก ธ.  สื่อแทนว่าโกรธ ไม่พอใจ กัดกินได้แม้กระทั่งตัวเอง (ทำให้ใจตนเองเป็นทุกข์ เจ็บปวด)
       ผู้ชายถือเลื่อย 2 คน  สื่อถึงบุคคลหญิงชายทั่วไปที่เป็นคนฉลาด มีปัญญา (หัวใส) คนหนึ่งมีสติ
อีกคนมีสมาธิ  ไม่ว่าแต่ละคนจะชอบเหลืองหรือ
ชอบแดง จะเห็นเหมือนหรือเห็นแตกต่าง หากมีความสามัคคี ร่วมมือกันตัดต้นตอของปัญหา ก็นำมาซึ่งความสุขได้  ทั้งสองคนมีผ้าคาดเอวสีน้ำเงินเหมือนกัน สื่อแทนว่า อย่างไรซะก็เป็นคนไทยเหมือนกัน
(หรืออย่างน้อยหากต่างชาติต่างภาษา ก็เป็นเพื่อนมนุษย์ปรารถนาความสุขเช่นเดียวกัน)
       เด็กที่อยู่กลางภาพ  สื่อว่าเมื่อมีสติ มีสมาธิ ก็จะทำให้เกิดปัญญา ถอนรากถอนโคนของปัญหาได้
สวมกางเกงสีน้ำเงิน บอกว่าเป็นคนไทย (เป็นเพื่อนมนุษย์) สวมเสื้อสีส้ม สื่อถึงความสามัคคีของคน 2 ฝ่าย (สีเหลือง + สีแดงปรองดองกลายเป็นสีส้ม คือความสงบ สันติสุขทั่วโลก)
       ถ้าเป็นหน่วยเล็ก ระดับครอบครัว สติและสมาธิ สองคนนี้สื่อแทน สามี ภรรยาก็ได้ ต้องสมานสามัคคี
จึงจะเกิดปัญญา แก้ปัญหาได้ ความสงบสุขจึงจะมีได้ในครอบครัว
       สุภาพสตรี สื่อแทนความดี ความงดงามในจิตใจของหญิง ชายที่ฝึกสมาธิมาดี จึงมีสติและปัญญาดี
พร้อมที่จะให้อภัย ให้กำลังใจ เข้าใจและช่วยปลอบประโลมคนข้างกายให้มีสติ ลดความโกรธ เปลี่ยนมา
มีใจอ่อนโยนมีรักและเมตตาได้จะได้มีความสุขกันทุกคน
       พื้นผิวที่ขรุขระภายในตัวโกรธ    สื่อถึงเมื่อมีอารมณ์โกรธ จะเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง สับสนวุ่นวายใจ หน้ามืด ตามัว แก้ปัญหาใดๆ ไม่ได้เลย  มีแต่จะเพิ่มเติมปัญหามากกว่า