ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

“กิเลส, ความอยาก”


                           ชื่อภาพ กิเลส, ความอยาก
แก่นธรรม : หากพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้ว จะเห็นว่าสุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ คิดให้เป็น ... มีผลมากกว่าวัตถุสิ่งของเงินทองภายนอก คนมีเงินเป็นหมื่นล้าน มียศตำแหน่งใหญ่โต มีคฤหาสน์หลายหลัง มีรถหลายคัน แต่หาความสุขใจได้อย่างฝืดเคืองเหลือเกิน คนที่มีวัตถุเงินทอง ทรัพย์สมบัติน้อย มีชีวิต พอเพียง และ พอใจก็มีความสุขได้
       หากมอบพรอันวิเศษให้ได้ ต้องการอะไรก็ขอให้ได้อย่างละร้อย ลองนึกดูดีๆ ว่าจะสุขหรือทุกข์
รถร้อยคัน บ้านร้อยหลัง ภรรยา (กิ๊ก) 100 คน วัว 100 ตัว หรือ บริษัท 100 แห่ง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้จะนำความสุขหรือภาระมาให้ ต้องคิด ต้องดูแลเอาใจใส่จนปวดหัว
นอนไม่หลับก็ได้ ... ไม่แน่
       เคยได้ยินคำเปรียบเปรยมาว่า .....................  ต่อให้ฝนตกลงมาเป็นทองคำสูงท่วมเท่าหัวเข่า .............คนเราก็คงไม่รู้จักพอ

“โกรธ”



ชื่อภาพ โกรธ
แก่นธรรม : ความโกรธ ความไม่ชอบใจ ไม่พอใจ หงุดหงิด รำคาญ ร้ายกาจและสำคัญนัก เพราะมันเกิดขึ้นได้ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกด้วยว่าจะเป็นใคร รู้จักกันมาก่อนหรือไม่ ... ไม่สน! ขอให้ได้โกรธ ยับยั้งชั่งใจไม่ได้ซะด้วย รักมากมายแค่ไหนก็โกรธได้ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ เราทุกคนรู้ดีว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า... ไม่อยากจะมีแต่มันก็มี... เพราะเราขาดเครื่องเตือนใจ ขาดสิ่งหักห้ามใจ ติดภาพนี้ไว้ ติดไว้เด่น
เป็นเพื่อนเตือนใจ เห็นแล้วจิตใจสงบลงได้
ภาพ  พระสงฆ์  สื่อแทนหญิงชาย คนทั่วไป ผู้มีธรรมะประดับใจ และฝึกฝนจิตใจด้วยการฝึกสมาธิมาดี จึงมีสติ และปัญญาดี
       แรมบ้า  สื่อแทนหญิงชาย บุคคลทั่วไปที่โกรธง่าย ไม่พอใจง่าย หงุดหงิด รำคาญง่าย ไม่ว่าที่ทำงาน
ที่บ้าน ที่สาธารณะก็ไม่เว้น แค่คิดต่างก็ทะเลาะแตกแยกฆ่าฟันกันถึงตายได้ แค่นิยมชมชอบสีที่แตกต่าง ก็โกรธกันได้แล้ว โดยไม่สนใจเหตุผล แจกโกรธให้ได้ฟรีกับทุกคนที่ตนไม่ชอบ ... แม้ความโกรธจะนำพาซึ่งความเดือดร้อนและความตายมาสู่ตนได้ ... ก็ไม่มีสติที่จะสนใจหรือยั้งคิด อย่างแรมบ้ากำลังจะตกขอบเหวตายเพราะความโกรธ ก็ไม่สนใจ
       สุนัข   สื่อแทนผู้ที่ขาดสติ จิตใจอ่อนไหว ตอบสนองต่อความโกรธและสถานการณ์อย่างฉับพลันทันที ก็อาจจะนำมาซึ่งความลำบากและความตายได้
จะตกถนน และตกขอบเหวตาย ก็ไม่ทันคิดเช่นกัน
       พระองค์แรก    (สวมแว่น) มีอาวุโส สติดี จิตใจสงบไม่หวั่นไหว แค่กลับหลังหันหนีห่างอย่างมีสติ จากพวกชอบโกรธ ก็เท่านั้น ... ไม่ ใส่ ใจ
       พระองค์ที่กลาง  แม้จะตกใจบ้าง แต่ยังมีสติที่
จะหลีกหนีจากสถานการณ์
       พระองค์ซ้ายมือ ฝึกจิตใจ ฝึกสมาธิมาน้อยจึงขาดสติ ขวัญอ่อน ไม่มีข้อธรรมะประดับใจ ... แก้สถานการณ์ไม่เป็นกลับอยู่เผชิญหน้ากับความโกรธ
และอาจจะโกรธตอบได้โดยง่าย ... บ้าตามกัน
          ตัวอักษรโกรธ สื่อถึงความโกรธ มีฟันแหลมคม ร้ายกาจและน่ากลัวยิ่งนัก โกรธจนตัวสั่น โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่ปลายหาง
       ตรงราก ธ.  สื่อแทนว่าโกรธ ไม่พอใจ กัดกินได้แม้กระทั่งตัวเอง (ทำให้ใจตนเองเป็นทุกข์ เจ็บปวด)
       ผู้ชายถือเลื่อย 2 คน  สื่อถึงบุคคลหญิงชายทั่วไปที่เป็นคนฉลาด มีปัญญา (หัวใส) คนหนึ่งมีสติ
อีกคนมีสมาธิ  ไม่ว่าแต่ละคนจะชอบเหลืองหรือ
ชอบแดง จะเห็นเหมือนหรือเห็นแตกต่าง หากมีความสามัคคี ร่วมมือกันตัดต้นตอของปัญหา ก็นำมาซึ่งความสุขได้  ทั้งสองคนมีผ้าคาดเอวสีน้ำเงินเหมือนกัน สื่อแทนว่า อย่างไรซะก็เป็นคนไทยเหมือนกัน
(หรืออย่างน้อยหากต่างชาติต่างภาษา ก็เป็นเพื่อนมนุษย์ปรารถนาความสุขเช่นเดียวกัน)
       เด็กที่อยู่กลางภาพ  สื่อว่าเมื่อมีสติ มีสมาธิ ก็จะทำให้เกิดปัญญา ถอนรากถอนโคนของปัญหาได้
สวมกางเกงสีน้ำเงิน บอกว่าเป็นคนไทย (เป็นเพื่อนมนุษย์) สวมเสื้อสีส้ม สื่อถึงความสามัคคีของคน 2 ฝ่าย (สีเหลือง + สีแดงปรองดองกลายเป็นสีส้ม คือความสงบ สันติสุขทั่วโลก)
       ถ้าเป็นหน่วยเล็ก ระดับครอบครัว สติและสมาธิ สองคนนี้สื่อแทน สามี ภรรยาก็ได้ ต้องสมานสามัคคี
จึงจะเกิดปัญญา แก้ปัญหาได้ ความสงบสุขจึงจะมีได้ในครอบครัว
       สุภาพสตรี สื่อแทนความดี ความงดงามในจิตใจของหญิง ชายที่ฝึกสมาธิมาดี จึงมีสติและปัญญาดี
พร้อมที่จะให้อภัย ให้กำลังใจ เข้าใจและช่วยปลอบประโลมคนข้างกายให้มีสติ ลดความโกรธ เปลี่ยนมา
มีใจอ่อนโยนมีรักและเมตตาได้จะได้มีความสุขกันทุกคน
       พื้นผิวที่ขรุขระภายในตัวโกรธ    สื่อถึงเมื่อมีอารมณ์โกรธ จะเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง สับสนวุ่นวายใจ หน้ามืด ตามัว แก้ปัญหาใดๆ ไม่ได้เลย  มีแต่จะเพิ่มเติมปัญหามากกว่า

“นั่งสมาธิ ออมทรัพย์ จับดี มีเป้าหมาย”


                          ชื่อภาพ นั่งสมาธิ ออมทรัพย์ จับดี มีเป้าหมาย
สาระธรรม : คนทุกๆ คน ภายในหนึ่งวัน (ทุกๆ วัน) ควรจะมี 4 อย่างนี้ให้ครบให้ได้ ชีวิตจะได้ราบรื่นและมีความสุข ทั้ง 4 อย่างนี้จะเชื่อมโยงและเกื้อหนุนกันให้เกิดความสุขและความสำเร็จได้อย่างดีที่สุด ช่วยเราได้ทั้งยามปกติและยามฉุกเฉิน
      นั่งสมาธิ อย่างน้อย- ก่อนลุกจากที่นอนตอนเช้า 15 นาที เพื่อเตรียมจิตใจให้สงบพร้อมรับเรื่องราว ปัญหา อุปสรรค ของวันใหม่ด้วยสติที่สุขุมมั่นคง
                     -ก่อนจะเข้านอน 15 นาที เพื่อทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาและเคลียร์มันออกจากใจให้หมด เพื่อจิตใจที่สะอาด สงบ หลับพักผ่อนได้เต็มที่ นำมาซึ่งสุขภาพจิตใจและสุขภาพกายที่ดี ทำบ่อยๆ นอกจากจิตใจสงบเย็นแล้ว ยังได้ปัญญาเป็นของแถม หากใครทำได้มากกว่า 15 นาทีก็นับว่าดี  ที่สำคัญควรจะทำทุกวันสม่ำเสมอให้เป็นนิสัย วินัยที่ดี จะเป็นคนที่มีสติว่องไว ปัญญาดี
       ออมทรัพย์ อย่างน้อย 10% - 20% ของรายได้ทุกๆ ครั้ง ถ้าเป็นเด็ก เยาวชนก็แบ่งค่าขนมหยอดกระปุกก่อนไปโรงเรียนทุกๆวัน เผลอๆ จบมหาวิทยาลัยซื้อรถยนต์ขับได้ก่อนจะทำงานมีเงินเดือนซะอีก ถ้าเป็นผู้ใหญ่... ทันทีที่มีรายรับไม่ว่าจะจากรายการใดๆ ก็หักเก็บออมทันทีอย่างน้อย 10% - 20% ของรายได้ เหลือเท่าไหร่ก็ค่อยใช้  ... ไม่ใช่ใช้เหลือก่อนแล้วค่อยเก็บเพราะมันจะไม่เหลือนั่นเอง ... เงินก้อนนี้อัศจรรย์นักและ สำคัญกว่าใครๆที่คุณคิดว่าดีกับคุณซะอีก เพราะเต็มใจจะช่วยเหลือคุณยามจำเป็นและฉุกเฉินอย่างเต็มใจที่สุดโดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้ออ้าง และไม่ขอเหตุผลและเอกสารค้ำประกันใดๆ เลย  

        จับดี  พอก้าวเท้าออกจากบ้าน คุณจะต้องเจอกับผู้คนและเรื่องราวมากมายทุกๆ เวลา แน่นอนว่าผู้คนและเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ดังใจ ไม่ถูกใจเราทั้งหมด การจับดีสำคัญมาก ขอย้ำ การจับดี มองในแง่ดี หรือคิดในแง่มุมบวก แล้วแต่ใครจะถนัดเรียก สำคัญมากๆ ใกล้ตัวที่สุด เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียว ขอให้ท่องจำคำนี้ประดับใจไว้ให้ดี ถ้าไม่สบายใจ จับดี ให้ทันช่วยคลายทุกข์ได้ ฝึกจับดีบ่อยๆ กับทุกๆ เรื่องเสมอเลย จะทำให้จับดีได้ไวและเป็นธรรมชาตินิสัย ... ความสุขจะเกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์
     มีเป้าหมาย คนทุกคนควรจะรู้ว่าตัวเองถนัดอะไร ชอบอะไร รักอะไร เก่งด้านไหน ทำแล้วทำได้ดี มีความสุขที่ได้ทำด้วย ทำได้เป็นเวลานาน ไม่เหนื่อย ไม่เครียด ก็กำหนดเป็นเป้าหมายชีวิตซะ จะได้ไม่เคว้งคว้าง ล่องลอยไร้จุดหมาย ในที่สุดจะหาความสำเร็จในชีวิตไม่ได้เลย

“ปิดหู ปิดตา ปิดปาก”



  
ชื่อภาพ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก
แก่นธรรม : มนุษย์ทุกคน ก่อนจะสุขหรือทุกข์ย่อมมีวัตถุดิบก่อน ซึ่งมาจาก การ ได้ฟัง  ได้เห็น  ได้คิด
มาจากสื่อสารพัดชนิด ทั้ง ทีวี อินเตอร์เน็ท โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ที่ส่งสุข ทุกข์ให้กันอย่างคล่องแคล่ว ถ้าอยากมีความสุข สงบ สบายใจ ก็จงมีภาพนี้ติดไว้เด่น เป็นเพื่อเตือนใจ ได้ความสุขเถิด
อธิบายภาพ
       พระสงฆ์  สื่อแทนหญิง ชายที่มีธรรมะประดับใจ เพราะเคยผ่านการฝึกจิตใจมาบ้างด้วยการเจริญสติ
ฝึกสมาธิในแบบต่างๆ จึงนำมาแก้ปัญหาชีวิตได้ดี และ
มีจิตใจสงบร่มเย็นเสมอ
       สุนัข- แมว สื่อแทนผู้คนหญิง-ชายทั่วไป
เดี๋ยวรัก เดี๋ยวชัง ชอบส่งจิตใจไปสนใจเรื่องภายนอกหน้าที่ตน จนนำทุกข์มาสู่จิตใจตนไม่สร่างซา
       ผีหลอก (เปรต)  สวมหมวก ใส่แว่นตา
ผูกหูกระต่าย สื่อแทนผู้ที่แสร้งทำตัวเป็นผู้ดี ทรงยศ
 ทรงเกียรติ และทรงภูมิความรู้สูง ดูดีแต่เปลือกนอก ฉะนั้นดูคนอย่าดูแต่ภาพลักษณ์ภายนอก และการกระทำที่ฉาบฉวย อาจจะโดนหลอกได้ ... ผีตัวนี้เฮี้ยนนัก หลอกถึงสองต่อ ต่อแรกหลอกกันด้วยการสร้างภาพลักษณ์ภายนอก ต่อที่สอง ตัวแกล้งโผล่มาทำดีทางซ้าย แต่ย้ายหัวมาหลอก มาโกงทางขวา หลอกสุดๆ แต่อย่าเพิ่งตกใจ แค่ปิดปากเงียบไว้  ดูๆ ไปก็พอ อย่าเพิ่งตอบรับหรือปฏิเสธเลย ทุกข์เปล่าๆ
          ผู้หญิงแต่งตัวโป๊ สื่อแทนกิเลส สิ่งยั่วยุต่างๆ ที่มากับสื่อหลายชนิด ในหลายรูปแบบที่ทำให้เราเกิด รัก โลภ โกรธ หลง เกิดทุกข์ในใจได้ย่างง่ายดาย

“ผ่านเครื่องกรอง 3 ชั้นก่อนพูด”

                
                   ชื่อภาพ ผ่านเครื่องกรอง 3 ชั้นก่อนพูด
แก่นธรรม ในหนึ่งชีวิตมนุษย์ทุกคนนั้น สิ่งที่ทำทุกๆ วัน ทุกๆ เวลามากที่สุดรองจาก คิด นั่นคือ พูด
พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วพาตัวมีภัยจริงๆ แล้วการคิด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มีภัยน้อยกว่าการพูด เพราะคนอื่นมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน จึงไม่รู้ ... แต่การพูด แม้จะเป็นรองความคิด แต่นำคุณนำโทษมาสู่ตัวเองและผู้อื่นได้มากกว่า
        อยากจะยกเรื่อง “พูด เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใหญ่ที่สุด ที่มนุษย์ทุกคนจะทำมากที่สุดในหนึ่งวัน พึงมีธรรมะข้อนี้ไว้เตือนสติทุกๆคนเถิด จะได้สังวรณ์ใจว่า ...
      พูดมาก    เสียมาก    พูดน้อย      เสียน้อย
      ไม่พูด      ไม่เสีย      นิ่งเสีย     โพธิสัตว์
อธิบายภาพ     
ถังน้ำ 3 ใบ (เขียว, เหลือง, แดง) สื่อแทนเรื่องราวมากมายจากสังคมภายนอกที่เกิดจากสื่อหลายชนิดโดยเฉพาะทีวีที่สาดเทมากระทบประสาทสัมผัสและจิตใจของเรา
กาต้มน้ำ  สื่อแทนตัวเราหญิง - ชาย ควรจะกลั่นกรองเรื่องราวที่มากระทบด้วยสติ ปัญญา ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าใส่ใจ หรืออย่า เอา ใจ-ใส่หยุดคิดปรุงแต่ง วิเคราะห์ วิจารณ์ ต่อเติมเรื่องภายนอกของคนอื่นเขา ซึ่งจะทำให้ทุกข์ใจได้ ให้หยุดคิด หยุดนึกหรือมีสติตัดกลับมาที่เรื่องหน้าที่ของตนเอง ณ ปัจจุบันขณะก็พอแล้ว หรือกลับมารู้สึกถึงลมหายใจเข้า-ออกในปัจจุบันขณะของเราได้ยิ่งดี

อย่าหูเบา ... ถ้าบังเอิญถูกเผาไหม้ เผาลนด้วยไฟกิเลสที่ไม่ดีเกี่ยวกับตนเองเข้ามาทำให้เกิดความโกรธ โมโห กดดัน อัดอั้น เดือดดาล จนแทบระเบิดหากไม่ได้ระบายชี้แจงแถลงข่าวออกไป... ก็จงระบายออกเถิด ... แต่ก่อนจะพูด (พ่น) อะไรออกไปต้องเป็น เรื่องจริง  เรื่องดี และ เรื่องที่มีประโยชน์ เท่านั้น จึงพูดออกไป ถ้าไม่ใช่แม้แต่ข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่สมควรจะพูด เพราะอาจเกิดโทษในภายหน้าได้
 
ของฝาก   :
เล่าเรื่องโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ในหนังสือ ด้วยรักบันดาล นิทานสีขาวเรื่อง เครื่องกรองสามชั้น
              เครื่องกรองสามชั้น
นานมาแล้ว ณ ประเทศกรีก นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งชื่อว่าโซเครติส กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านของเขา ตอนนั้นเองมีเพื่อนคนหนึ่งแวะมาทักทายและกล่าวว่ามีเรื่องเกี่ยวกับใครคนหนึ่งจะเล่าให้ฟัง
โซเครติสบอกเพื่อนว่า
เพื่อนเอ๋ย รอเดี๋ยวก่อน ก่อนที่เพื่อนจะเล่าเรื่องของเพื่อนนั้น เพื่อนได้นำเรื่องของเพื่อนไปกรองกับเครื่องกรองสามชั้นมาแล้วหรือยัง
 เพื่อนของโซเครติสงงมาก ถามกลับว่า เครื่องกรองสามชั้นอะไรหรือ
เป็นเครื่องกรองที่ทำให้เรารู้ว่า เรื่องของเราควรส่งต่อถึงผู้อื่นหรือไม่โซเครติสตอบ
 “ข้าก็ยังงงๆ อยู่ดีล่ะ ไหนลองบอกส่วนประกอบของแต่ละชั้นกรองมาซิ
  โซเครติสจึงบอกว่า เครื่องกรองชั้นแรกก็คือ ความจริง ขอถามหน่อย เรื่องที่เพื่อนจะพูดหรือเล่าออกมาเป็นความจริงหรือไม่
  เพื่อนของโซเครติสบอกว่า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะฟังมาจากคนอื่นอีกที แต่เขาก็บอกมาว่าเป็นจริงนี่
   “ถ้าเพื่อนไม่ได้ประสบเรื่องนั้นด้วยตนเอง เพื่อนอย่าเพิ่งแน่ใจเลยว่าเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเพื่อนจะนำ
เรื่องที่เพื่อนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่ามาเล่าให้ข้าฟังอย่างนั้นหรือโซเครติสกล่าวแก่เพื่อนของเขา
       แล้วเครื่องกรองชั้นที่สองล่ะ
เพื่อนของโซเครติสถามต่อ
       เครื่องกรองชั้นที่สองคือ ความดี ขอถามหน่อยว่า เรื่องที่เพื่อนจะเล่านั้นเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่
โซเครติสตอบและย้อนถามกลับ
       ไม่ดีเลย เพราะที่ข้ากำลังจะเล่าให้ท่านฟังเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไม่ดีของคนอื่น
โซเครติสพูดว่า ถ้าอย่างนั้นเพื่อนจะเอาทั้งเรื่องไม่จริงและขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องไม่ดีด้วยมาเล่าให้ข้าฟังอย่างนั้นหรือโซเครติสเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า เอาล่ะเพื่อน แม้ว่าเรื่องของเพื่อนจะเป็นเรื่องไม่จริงและไม่ใช่เรื่องดี แต่เรามาดูกันก่อนก็ได้ว่า เรื่องของเพื่อนจะผ่านเครื่องกรองชั้นที่สามได้หรือไม่
  “มันคืออะไรล่ะเพื่อนของโซเครติสถาม
เครื่องกรองชั้นที่สามคือ ประโยชน์ เรื่องที่เพื่อนจะเล่าให้ข้าฟัง เมื่อฟังแล้วทำให้เกิดประโยชน์อันใดหรือไม่เล่า
 เพื่อนของโซเครติสตอบว่า เห็นจะไม่มีประโยชน์อันใดเลยท่าน
 "ถ้าอย่างนั้นโซเครติสพูด ในเมื่อเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องไม่ดี และไม่มีประโยชน์ เพื่อนก็อย่าเล่าให้ข้าฟังเลย เก็บไว้ที่ตัวเพื่อนเองดีกว่า
 เพื่อนของโซเครติสอึ้งไป และใช้ความคิดเพื่อพิเคราะห์คำพูดของโซเครติสอย่างหนักหน่วง ก่อนจะลากลับโดยไม่ได้เล่าเรื่องนั้นให้เขาฟังอีกเลย

ปล่อยวาง




                         ชื่อภาพ ปล่อยวาง
วางเป็นก็เย็นใจ วางได้สบายจัง
(วางเป็นก็เย็นใจ วางได้ก็ใจเย็น)
แก่นธรรม กระดาษชิ้นเล็กๆ ที่เบาหวิว หากถือไปนานๆ เข้า ก็ย่อมกลายเป็นของหนัก ตรงกันข้ามกับก้อนหินก้อนใหญ่ ถ้าไม่แบกหรือไม่อุ้มมัน ก็ไม่รู้สึกหนัก ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ชีวิตหรือจิตใจหนักอึ้ง ควรรู้จักปล่อยวางเสียบ้าง
       แม้แต่ของที่มีประโยชน์ เราควรยึดถือก็ต่อเมื่อถึงเวลาใช้งาน เมื่อใช้เสร็จก็ควรวางลงเสีย นับประสาอะไรกับของที่ไร้ประโยชน์ เช่น ความทุกข์ ความห่วงกังวล ยิ่งต้องวางทันทีที่รู้ตัวว่ามาครองใจ หาไม่แล้วจะกลายเป็นของหนัก จนเอาตัวไม่รอด
คำอธิบายภาพ
   ผู้หญิง : แทนมนุษย์ หญิงและชาย ทั่วโลก
   โลก   : แทนยศ ตำแหน่ง เงินทอง วัตถุ
    สิ่งของทุกชนิด เชื้อชาติ ศาสนา ตัวตน ตัวกู
   วัว-ควาย : แทนผู้ที่มีธรรมมะเตือนใจ
              ปล่อยวางเป็น

"อย่าส่งจิตออกนอก"


                                    ชื่อภาพ อย่าส่งจิตออกนอก
แก่นธรรม : จิตใจ ความคิด ความรู้สึก ก็คืออันเดียวกันนั่นเอง ล้วนไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ ..... คิดตรงไหนใจก็อยู่ตรงนั้น และความนึกคิดก็คือตัวจิตใจ คือความรู้สึก อย่าปล่อยจิต (ใจ, ความคิด, ความรู้สึก) ให้ปรุงแต่งมากนัก ข้อสำคัญให้รู้จัก จิตของเราเท่านั้นเอง เพราะว่าจิต คือ ตัวหลักธรรมนอกจากจิตแล้ว ไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย ภาวนามากๆ (ฝึกสมาธิ) แล้วจะรู้สึกถึงความเป็นจริง (ไม่ต้องไปนั่งสงสัยถามพระทุกครั้ง) ... เท่านั้นเอง  ... ไม่มีอะไรมากมาย ... มีเท่านั้น ... ว่าง ... เปล่า ... บริสุทธิ์ ...
        หลักธรรมที่แท้จริงคือ จิต จิตของเราทุกคนนั่นแหละคือหลักธรรมสูงสุด ....
                 ผู้ใดเห็นจิต ผู้นั้นเห็นหลักธรรม
       คำสอนที่สั้นที่สุด (แก่นพุทธศาสนาสรุปลงที่นี่) หยุดคิด หยุดนึก กับทุกเรื่องที่มากระทบจิตใจและกายยาววาหนาคืบนี้ ... ไม่มีจดไม่มีจำ ไม่ปรุงแต่งอดีต อนาคต ปล่อยวางหมด คือ เป็นกลางๆ อยู่เฉยๆ 
ทำเฉพาะหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในปัจจุบันขณะนี่แหละ ประเสริฐสุด
        อยากมีความสุขจึงต้องฝึกสมาธิ ควบคุมจิตของตน ต้องตั้งสติรักษาจิตอยู่ตลอดเวลา อย่าไปคิดตามเรื่องใดๆ ที่มากระทบเลย ... แล้วจะหมดความทุกข์ ... มีแต่ความสุข สบายใจเอย ... เพราะไม่ได้เข้าไปเพื่อปรุงแต่งต่อเติม ครั้นเมื่อความปรุงแต่งขาดไปและสภาพความเป็นตัวตนของเราไม่มี ความทุกข์จะเกิดขึ้นแก่ใครได้อย่างไร ... ถ้าหยุดคิด ... ทุกอย่างก็จบ ...
จิตที่ส่งออกนอก (เพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งสิ้น)        เป็นสมุทัย (เหตุนำทุกข์มาให้)
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก (แล้วหวั่นไหว)        เป็นทุกข์
จิตเห็นจิต (อย่างแจ่มแจ้ง)                            เป็นมรรค (ทางให้ถึงความหมดทุกข์)
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต (อย่างแจ่มแจ้ง)              เป็นนิโรธ (หมดความทุกข์)
คำประพันธ์ บทพระธรรมของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ภาพปริศนาธรรม : หัวใจใส่ชุดซุปเปอร์แมน สื่อถึงในความเป็นมนุษย์ทุกคนมีจิตใจเป็นใหญ่สุด จิตใจมนุษย์ไม่ธรรมดาเลย ... ไม่ว่าจะรัก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ ล้วนแต่เป็นซุปเปอร์ ซุปเปอร์จิตมีอะไร (สิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกรั้ว) มากระทบยั่วยุนิดหน่อยไม่ได้ ฟุ้งซ่านซัดส่าย มีปฏิกิริยาตอบสนอง เข้าคิด ปรุงแต่ง ต่อเติม วิเคราะห์ วิตก วิจารณ์ ไขว่คว้าทันที ... ไวยังกับลิง ... จึงต้องมัดล่ามไว้ด้วยธรรมะ (สื่อแทนด้วยพระสงฆ์) ... และ ลมหายใจเข้าออก เป็นหลักยึดของจิตใจทุกคน  ต้องปิดประตูใจ ไม่ให้คิดซัดส่ายเรื่องภายนอกที่ไม่ใช่หน้าที่ตน หรือไม่ให้คิดเรื่องของคนอื่นเขา ... สรรพสิ่งเป็นของไม่เที่ยง ... ไม่แน่ ... ไม่แท้ ... ไม่ทน ...
          หยุดคิด หยุดนึก เป็นสุขที่สุด

"สุข ทุกข์อยู่ที่ใจ"



                                             ชื่อภาพ สุข - ทุกข์ อยู่ที่ใจ
แก่นธรรม : ใจก็คือความรู้สึก คือความคิด บาป-บุญ, นรก-สวรรค์ อยู่ที่ใจ ก็คืออยู่ที่ความรู้สึก อยู่ที่ความคิดนั่นแหล่ะ อยู่ที่คิดบวก (ดี) หรือคิดลบ ... อย่างที่เคยได้ยินกันว่า สวรรค์ในอก นรกในใจสวรรค์ไม่ได้อยู่บนฟ้าอยู่บนอากาศ นรกไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเราทุกคนนั่นแหละ
ภาพปริศนาธรรม  : ด้านซ้าย สวรรค์สื่อแทนคนที่ คิดดี พูดออกมาก็ดี เมื่อกระทำก็ดีตาม ก็ขึ้นสวรรค์ ...
คือใจเบาสบาย มีความสุขนั่นเองจึงได้ขึ้นสวรรค์พร้อมกับพระ ... พระ สื่อแทนคนที่มีข้อคิดธรรมะดีประดับใจและนำไปปฏิบัติจนเห็นผลแห่งความสุขนั่นเอง ส่วน วัว-ควาย ที่เล่นสเก็ตบอร์ดสื่อแทนคนที่ไม่มีเป้าหมายใดๆ ในชีวิต ทำตัวไร้สาระแก่นสาร ไม่กระทำตัวให้มีประโยชน์ใดๆ กับใคร กลับสร้างแต่ความเดือดร้อนรบกวนผู้อื่นด้วยการเสพและเที่ยวเตร่ไปวันๆ  อยากรู้ว่าจุดจบเขาจะอยู่ที่ใด หาดูได้ในภาพ .....ใส่สูทผูกไทด์ ห้อยโตงเตง มีป้ายเล็กๆ เขียนว่า โกงแทนผู้ทรงเกียรติทั้งหลายที่ชอบแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น กอบโกย คอรัปชั่น หลงตัวเองและลาภยศ ในที่สุดก็ ขอเอกสิทธิ์คุ้มครองนั่นแหละ เริ่มตกนรกทั้งเป็นแต่ไม่รู้สึกตัว