ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เจริญสติ



สุขอื่นใดมีทุกข์ซ้อน เจริญสติสุขแท้ บริสุทธิ์
³³สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบไม่มี หมายความว่า สุขอื่นมี เช่น ความสุขในการดูละครดูหนัง ในการเข้าสังคม social ในการมีคู่ครอง หรือในการมีลาภ ยศ ได้รับความสุข สรรเสริญ เมื่อได้รับความสุขจากสิ่งเหล่านี้ก็สุขจริง ... แต่ว่า สุขเหล่านี้มีทุกข์ซ้อนอยู่ทุกอย่าง ต้องคอยแก้ไขปรับปรุงกันอยู่เสมอ ไม่เหมือนความสุขที่เกิดจากสันติ ความสงบ (เจริญสติ, สมาธิ, ภาวนา) ซึ่งเป็นความสุขที่เยือกเย็นและไม่ซ้อนด้วยความทุกข์ และไม่ต้องแก้ไขปรับปรุงตกแต่งมาก เป็นความสุขที่ทำได้ง่ายๆ (ไม่ต้องลงทุนไม่สิ้นเปลืองใดๆ) เกิดกับกายใจของเรานี่เอง อยู่ในที่เงียบๆ คนเดียวก็ทำได้ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมสังคมก็ทำได้ ถ้ารู้จักแยกใจหาสันติสุข กายนี้ก็สักแต่ว่าอยู่ในที่ระคนด้วยความยุ่งของสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น ไม่ยุ่งมาถึงใจ แม้เวลาเจ็บหนัก มีทุกขเวทนาปวดร้าวไปทั่วกาย แต่เรารู้จักทำใจให้เป็นสันติสุขได้ ความเจ็บนั้นก็ไม่สามารถจะทำให้ใจเดือดร้อนตามไปด้วย เมื่อใจสงบแล้วกลับจะทำให้กายนั้นสงบ หายทุกขเวทนาได้ด้วยและประสบสันติสุข ซึ่งไม่มีสุขอื่นยิ่งกว่าสันติสุขนั้น³³
                               น้อมนำโอวาทธรรมของท่านธัมมะวิตักโกภิกขุ
                                 (พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต)

{{จิตเป็นสมบัติสำคัญมากในตัวเราที่ควรได้รับการเหลียวแลด้วยวิธีเก็บรักษาให้ดี ควรสนใจรับผิดชอบต่อจิต อันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของตน ... วิธีที่ควรกับจิตโดยเฉพาะก็คือภาวนา (เจริญสติ, สมาธิ) ... ฝึกหัดภาวนาในโอกาสอันสมควร{{
                                 น้อมนำโอวาทธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

õõขอให้ท่านทั้งหลายสำรวจดูความสุขว่า ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต ครั้นสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ แค่ที่เราเคยพบมาแล้วนั่นเอง ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำๆ ซากๆ อยู่แค่นั้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า ประเสริฐกว่านั้น ปลอดภัยกว่านั้น ... พระอริยะเจ้าทั้งหลายท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจากความสงบกาย สงบจิต สงบกิเลส (เจริญสติ, สมาธิ,ภาวนา) เป็นความสุขที่ปลอดภัยหาสิ่งใดเปรียบมิได้õõ
                             น้อมนำโอวาทธรรมของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
                                     วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

YY สุขที่แท้จริง ได้แก่จิตที่นิ่ง ไม่ดิ้นรน (ไม่วิตกกังวล ไม่คิดปรุงแต่งต่อเติม) ผู้มา (ฝึกเจริญสติ, สมาธิ, ภาวนา) จับจุดความสุขที่แท้จริงได้อย่างนี้แล้ว แม้ผู้นั้นจะอยู่ในอิริยาบถใด ประกอบกิจการงานใดๆ อยู่ก็ตาม เขาจะมีใจเป็นสุขอยู่ตลอดการทุกเมื่อ YY
                     น้อมนำโอวาทธรรมของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
                              วัดหินหมากเป้ง จ. หนองคาย  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น